“ยอห์นผู้ให้บัพติสมา ผู้เตรียมทาง ความรอด การเสด็จมาของพระผู้ช่วยให้รอด”

Advent  •  Sermon  •  Submitted   •  42:35
0 ratings
· 42 views
Files
Notes
Transcript
Sermon Tone Analysis
A
D
F
J
S
Emotion
A
C
T
Language
O
C
E
A
E
Social
View more →
“ยอห์นผู้ให้บัพติสมา ผู้เตรียมทาง ความรอด การเสด็จมาของพระผู้ช่วยให้รอด”
คริสตจักรแองลิกัน ลาดกระบัง/ ไคร้สตเชิช กรุงเทพ
วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2021
มาลาคี 3:1-5; ลูกา 3:1-6
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Word Count 4,368 ; Time 35 minutes
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
พี่น้องครับ วันอาทิตย์นี้ เรากำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ หรือ Advent
ปฎิทินคริสเตียน ของเรา จะเริ่มต้นปีปฎิทิน ปีใหม่ ด้วยเทศกาล Advent ครับ
สำหรับผู้เชื่อแล้ว เราเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการเตรียมตัว เตรียมชีวิต เพื่อรับ การเสด็จมาของ พระเยซูคริสต์ สี่สัปดาห์ ก่อนเทศกาลคริสตมาส สัปดาห์ที่แล้ว เริ่มต้น ซีรีส์ เทศนา Advent ด้วย “ความหวัง” เทียนเล่มที่หนึ่ง ถูกจุดขึ้น พี่น้องยังจำคำเทศนาสัปดาห์ที่แล้วได้มั้ยครับ ต เต่า สามตัวนะครับ แตกต่าง ตักเตือนและ ติดตาม
ในสัปดาห์นี้ เทียนเล่มที่สอง คือ “ความเชื่อ” วางใจในแผนการความรอด ที่มาถึงเราแล้ว ในการเสด็จมาของ พระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยในให้รอดของเรา ครับ
ขอบคุณพระเจ้านะครับ พี่น้องเราเริ่มต้นปีใหม่ ตามปฎิทินคริสเตียน ด้วยการกลับมานมัสการพระเจ้าร่วมกันที่คริสตจักร
ที่ลาดกระบัง ก็หลายอาทิตย์แล้ว / ไคร้สตเชิช วันนี้ เป็นวันแรกที่เรามานมัสการพระเจ้าร่วมกัน
หลังจากต้องนมัสการออนไลน์ กันไปยาวๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน
ปี 2021 กำลังจะผ่านไปอย่างรวดเร็วนะครับ อีกแป๊บเดียว เราก็จะเข้าสู่ปี 2022 แล้วครับ
เราก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ขอบคุณพระเจ้านะครับ ที่เรามีวัคซีนที่มีคุณภาพและเพียงพอ เราค่อยๆเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติกันอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องพาสมาชิกในครอบครัวออกไปกินข้าวนอกบ้าน หลายคนเพิ่งพาครอบครัวกลับจากไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด อากาศเย็นเริ่มมาแล้ว บางโรงเรียน เริ่มเปิดเรียนที่โรงเรียนแล้ว
[RCDC ก็เริ่มรับเด็กๆแล้ว วันธรรมดา ที่คริสตจักร เริ่มกลับมาคึกคัก ระหว่างสัปดาห์เริ่มมี เสียงเด็กๆ ผู้ปกครอง คุณครูกลับมาที่คริสตจักร บรรยากาศคริสตจักรในช่วงระหว่างสัปดาห์ก็ กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวิตชีวาอีกครั้ง เสียงคุณครู เด็กทำกิจกรรม วิ่งเล่นในโรงเรียน ภาพของผู้ปกครองที่มารับ มาส่งลูก หลาน ภาพของชีวิต]
เราเริ่มเปิดประเทศแล้ว ต้อนรับนักท่องเที่ยว แม้ว่าเริ่มจะมีข่าวไม่ค่อยจะดีกับสายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน เข้ามา แต่ก็ยังคงมีความหวังที่ว่า เศรษฐกิจ การจ้างงาน จะดีขึ้น พี่น้องคนไทยจะกลับมามีการงาน การเงินที่ดีขึ้น หลังจากผ่านภาพของการตกต่ำทางเศรษฐกิจในช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมา
ก่อนจะรับพระคำพระเจ้าให้เราสงบใจ ก้มศีรษะ หลับตา ร่วมใจกันอธิษฐาน เพื่อรับพระคำพระเจ้าร่วมกันครับ
“พระเจ้าผู้ทรงพระคุณ โปรดประทานหัวใจที่ถ่อม ยินดีรับการสอน และหัวใจที่เชื่อฟัง ในขณะที่ลูกรับการเปิดเผยและสำแดงจากพระคำของพระองค์ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอทรงประทานกำลังที่ลูกจะสามารถกระทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยและสำแดง ให้เป็นจริงในชีวิตของลูก ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”
พี่น้องครับ สัปดาห์ที่สองใน เทศกาล Advent พระเจ้าทรงประทาน ความเชื่อ เพื่อที่เราจะ การวางใจในแผนการความรอด ที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้แล้ว ให้กับมนุษย์ทุกคน ท่ามกลางความตกต่ำทางศีลธรรมของมนุษย์ทุกคน เราทุกคนต่างตกเป็นทาส เป็นเชลย อยู่ในความบาป และปลายทางของเราทุกคนคือ ความพินาศ
พระเจ้าทรงประทาน “ความรอด” ให้กับประชากรของพระองค์ ผ่าน ความเชื่อวางใจ ใน การเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ พระผู้ไถ่ การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์
พระคัมภีร์ สำหรับ เทศกาลเตรียมรับเสด็จ ในเช้า / บ่ายวันนี้ พูดถึง “ความรอด” ที่พระเจ้าจัดเตรียมให้กับเราที่เป็นผู้เชื่อ สามประการ ความรอด ด้วย สาม รอ ครับ สาม รอ เรือ
(1) “เริ่มต้น” หรือ “ริเริ่ม” ก็ได้นะครับ
ความรอด “เริ่มต้น” มาจากพระเจ้า เป็นแผนการจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นผู้ “ริเริ่ม” แผนการความรอด ตั้งแต่ในปฐมกาล เมื่อมนุษย์คู่แรกล้มลงในความบาป แผนการความรอด ที่พระเจ้าทรง “ริเริ่ม” หรือ “เริ่มต้น” โดยพระองค์นั้น มาสำเร็จ ในการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์
ภาพของ องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นผู้ริเริ่ม และ ลงมือกระทำให้สำเร็จ เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วครับ
มีอย่างน้อยสองความหมายด้วยกันครับ คือ ความรอดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือ โชคดี หรือ โชคช่วย แต่โดยแผนการของพระเจ้า พระคัมภีร์บอกว่า พระเจ้าทรงเลือกเราตั้งแต่ก่อนสร้างสากลจักรวาล
และโดย พระคุณพระเจ้า ไม่ใช่ด้วยการทำดีของมนุษย์ ความจริงแล้ว มนุษย์ไม่สมควรที่จะได้รับความรอดพ้นจากความพินาศ เนื่องจากความบาปของเราเลย
บริบทใน มาลาคี บทที่ 3 พระคัมภีร์ในวันนี้ พระเจ้าอวยพรให้อิสราเอลได้เดินทางกลับจากการเป็นเชลยในบาบิโลน กลับมาสร้างกำแพงเมือง และ พระวิหารในเยรูซาเล็ม ในสมัยของเนเหมีย์และเอสรา และ เศคาริยาห์ พวกเขาต่างตื่นเต้น และดีใจในช่วงแรก ทุกอย่างเป็นไปตามคำนายของบรรดาผู้เผยพระวจนะ และต่างคาดหวังการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ ที่จะกลับมาสถาปนาอาณาจักรอิสราเอล ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม มีการรื้อฟื้น การนมัสการในพระวิหาร คนเลวี ธรรมบัญญัติ โทราห์ ด้วยใจร้อนรนในตอนแรก
แต่คนรุ่นนี้ ต่างเฝ้ารอ รอแล้วรอเล่า พระเมสสิยาห์ ก็ยังไม่เสด็จมาตามคำพยากรณ์ พวกเขายังคงต้องอยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เซีย
คนส่วนใหญ่ เริ่ม หมดหวัง และ ขาดความเชื่อ กลับไปสู่วิถีทางเดิม ดำเนินชีวิตเหมือนคนที่ไม่มีความเชื่อ กลับกลายเป็นว่า พวกเขาก็ดำเนินชีวิตไม่ได้ดีไปกว่าบรรพบุรุษก่อนหน้าเขา ก่อนที่จะถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยในบาบิโลน
มาลาคี ซึ่งเป็นผู้เผยพระวจนะคนสุดท้ายในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าได้ใช้มาลาคี ให้มาเตือนสติ คนเหล่านั้นที่ ขาด ความเชื่อ ในบทที่ 1 และบทที่ 2 ประชาชน ร่วมถึง บรรดาปุโรหิต ด้วยนะครับ นำ สัตว์ที่มีตำหนิ ตาบอด นำอาหารที่เป็นมลทิน มาถวายพระเจ้า ในพระวิหาร แทนที่จะนำสัตว์ที่ดีที่สุด ปราศจากตำหนิมาถวายพระเจ้า ความเสื่อมของบรรดาปุโรหิต ในบทที่ 1 ข้อ ที่ 8 “เมื่อเจ้านำสัตว์ตาบอดมาเป็นสัตวบูชา ...เจ้าถวายสัตว์ที่พิการหรือป่วย...” พระเจ้าตรัสต่อว่า ให้ลองเอาสัตว์พิการเหล่านี้ไปเป็นของกำนัลผู้ว่าราชการของพวกเจ้า ดูว่าเขาจะพอใจเจ้าหรือไม่?
ในบทที่ 2 ข้อที่ 8 แทนที่ปุโหหิต คนเลวีจะสั่งสอนความจริงของพระเจ้าในโทราห์ เพื่อให้ประชาชนยำเกรงพระเจ้า ข้อที่ 8 “แต่พวกเจ้าเองได้หันไปเสียจากทางนั้น เจ้าเป็นเหตุให้หลายคนสะดุดเพราะคำสั่งสอนของเจ้า...เจ้าได้ทำให้พันธสัญญาของเลวีเสื่อมไป”
ในข้อที่ 14 ชายอิสราเอลก็หย่าร้าง ละทิ้งคำมั่นสัญญาในการแต่งงานกับหญิงภรรยา เหมือนอย่างอิสราเอลที่ละทิ้งพันธสัญญากับพระเจ้า พระเจ้าบอกว่า ท่านก็ทรยศต่อนาง
การฉ้อโกงทศางค์ หรือสิบลด ในบทที่ 3 ข้อที่ 8
และในบทที่ 2 ตอนท้าย อิสราเอล กล่าวคำเหยียดหยาม พระยาห์เวห์ ว่า ไหนล่ะพระเจ้า พระเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ พวกเขากล่าว อย่างกับคน ที่ไม่มีความเชื่อว่า “พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?”
ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ แหละครับ พระเจ้าตรัสใน บทที่ 3 ว่า
ใน มาลาคี 3 พระยาห์เวห์ตรัสกับยูดาห์ ในข้อที่ 1 ว่า “นี่แน่ะ เราส่งทูตของเราไปเพื่อตระเตรียมหนทางไว้ข้างหน้าเรา และองค์เจ้านายผู้ซึ่งเจ้าแสวงหานั้นจะเสด็จมายังพระวิหารของพระองค์อย่างกะทันหัน ทูตแห่งพันธสัญญาผู้ซึ่งเจ้าพอใจนั้น ดูซี ท่านกำลังมาแล้ว”
ความรอดที่ เริ่มต้น หรือ ริเริ่ม จากพระเจ้าก่อน แม้ว่า เราจะไม่สมควร จะได้รับ ความรอด จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โชคดี ที่เรารอด แต่เป็น ความตั้งใจของพระเจ้า ทุกอย่างอยู่ในแผนการของพระเจ้า ในเวลาของพระองค์
และโดย พระคุณ ของพระเจ้า พระคุณ หมายความว่า ในขณะที่เราไม่คู่ควร ไม่สมควร ที่จะได้รับความรอด ความจริงคือ เราสมควรรับความพินาศ ในชีวิตเก่าของเรา
ในข้อที่ 2 “แต่ใครจะทนอยู่ได้ในวันที่ท่านมา? และ ใครจะยืนมั่นอยู่ได้เมื่อท่านปรากฏตัว?”
โรม 3:23 “เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว”
คริสตจักรยุคแรก บรรดาอัครทูต ได้อธิบายความหมาย มาลาคี บทที่ 3 ข้อที่ 1 นี้ว่า สำเร็จแล้ว ในลูกา บทที่ 3 ทูตของพระยาห์เวห์ คือ ยอห์นผู้ให้บัพติสมา และ องค์เจ้านาย ผู้ซึ่งเจ้าแสวงหา ไม่ใช่ใครอื่น คือ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เอง ซึ่งเสด็จมา รับสภาพมนุษย์ ในคริสตมาส ครั้งแรกเมื่อ สองพันปีที่แล้ว ใน องค์พระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่ง ยอห์น ผู้ให้บัพติสมาเป็นทูตที่ตระเตรียมหนทางไว้ ก่อนที่กษัตริย์จะเสด็จมา
พระเยซูเสด็จเข้าไปที่พระวิหาร ตามคำนาย ในข้อที่ 1 อย่างรวดเร็ว “องค์เจ้านายผู้ซึ่งเจ้าแสวงหานั้นจะเสด็จมายังพระวิหารของพระองค์อย่างกะทันหัน ...”
ช่วงนี้ฮิต ซีรีส์ ประธานบริษัทปลอมตัวมาที่บริษัทตัวเองใช่มั้ยครับ พระเยซูเสด็จเข้าไปที่พระวิหาร พระนิเวศของพระยาห์เวห์ ของพระองค์เอง และชำระพระวิหาร คว่ำโต๊ะแลกเงิน และ ตรัสว่า พวกเจ้าทำให้พระนิเวศพระบิดาของเรา ที่ควรจะเป็นที่อธิษฐานภาวนาให้เป็นซ่องโจร ความเสื่อมทรามในพระวิหาร ตั้งแต่สมัยมาลาคี จนถึงยุคที่พระเยซูเสด็จมา ก็ยิ่งเสื่อมทรามลง ความอยุติธรรม การเอารัดเอาเปรียบยิ่งมากขึ้น
เราเห็นภาพพระเยซู ปะทะ กับบรรดาฟารีสี ธรรมาจารย์ และปุโรหิตในพระวิหาร ทรงตำหนิคนเหล่านี้ว่าเต็มไปด้วยความเห่อหยิ่ง คนหน้าซื่อใจคด ยกตัวเองขึ้นให้สูงกว่าคนอื่นๆ ภายนอกดูดี แต่ภายในจิตใจที่เสื่อมทราม และพวกเขาล้วน ปฎิเสธความจริง
พี่น้องครับ บริบท มาลาคี บทที่ 3 กลับมาดูบริบทรอบตัวเราเองครับ วันนี้ ความเชื่อ ของเราเป็นอย่างไรบ้างครับ เรากำลังทำสิ่งเดียวกันกับ อิสราเอล ในยุคของมาลาคีอยู่หรือเปล่าครับ เราเอาสัตว์พิการ มาถวายพระเจ้ามั้ยครับ หรือ เราเอาส่วนที่ดีที่สุดของเรามาถวายพระเจ้า
เราเอาเวลาที่ดีที่สุด ของเราในแต่ละวัน มาเข้าเฝ้าพระเจ้า ใช้เวลาอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์หรือเปล่าครับ หรือเราเอา เศษเวลาของเรามาใช้เวลากับพระเจ้า เวลาที่เราเหนื่อยแล้ว ล้าจากงานแล้ว มาเข้าเฝ้าพระเจ้า อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์หรือเปล่าครับ สำหรับบางคน ต้องถามว่า เราอธิษฐาน เฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ ความเชื่อเราเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าให้เราให้คะแนน ความเชื่อ เรา จาก ศูนย์ถึงสิบ วันนี้เราให้คะแนนความเชื่อของเรา เท่าไหร่ครับ
เรายังคงถวายตะลันต์ความสามารถที่ดีที่สุดของเราให้พระเจ้าหรือเปล่าครับ ในงานของพระเจ้า
สามี ภรรยาครับ เรายังสัตย์ซื่อกับสามี ภรรยาเราอยู่มั้ยครับ เรายังรักษาคำมั่นสัญญาที่เราเคยให้ไว้กับพระเจ้าอยู่มั้ยครับ
เด็กๆ เยาวชนครับ วันนี้ ความเชื่อของเราเป็นอย่างไรบ้างครับ
เรากำลังดำเนินชีวิต ไม่แตกต่างจาก เพื่อนๆของเราที่ไม่รู้จักพระเจ้า ไม่มีความเชื่อ อยู่หรือเปล่าครับ
เราละทิ้งคำสอนของพระเจ้า อยู่หรือเปล่าครับ เราเห็นด้วยหรือเปล่าครับ กับ การมีความสัมพันธ์ของคนในเพศเดียวกัน ในขณะที่พระเจ้าบอกว่า การกระทำนี้เป็นความบาป เป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนและเราต้องหลีกเลี่ยง หรือเราดูละคร วาย โดยที่เราไม่คิดอะไร
คนทำงานครับ เราฉ้อโกงพระเจ้าในเรื่องเงินถวายอยู่หรือเปล่าครับ เราถวายทรัพย์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
พี่น้องครับ สิบลดในธรรมบัญญัติ เพื่อเลี้ยงดูผู้รับใช้พระเจ้า คนเลวีที่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้มีที่ดิน เหมือนคนเผ่าอื่นๆ เพื่ออุทิศตัวในงานปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าในพระวิหาร เขามีครอบครัว มีลูกที่เขาต้องรับผิดชอบ เลี้ยงดูเหมือนกับเรา เงินถวายถูกใช้ไปกับ งานพันธกิจ งานสังคมสงเคราะห์ ดูแล หญิงม้าย เด็กกำพร้า คนยากจน คนต่างด้าว คนป่วยที่ยากจน เพื่อที่พระเจ้าจะได้รับเกียรติ
ข่าวดีคือ แม้ในขณะที่เรายังไม่สมบูรณ์ ยังอยู่ในความบาป พระเจ้า ทรง ริเริ่ม เริ่มต้น ความรอด ให้กับเรา เป็นพระคุณพระเจ้า แม้เราจะไม่สมควรที่จะได้รับความรอดพ้นจากบาปก็ตาม
ถ้าพระเจ้า ไม่ริเริ่ม เริ่มต้น แผนการความรอด ในพระคริสต์ จะไม่มีมนุษย์ซักคนเลยครับ ที่จะได้รับความรอด
รอ ที่หนึ่งนะครับ สำหรับ ความรอด “ริเริ่ม” “เริ่มต้น” โดยพระเจ้า มีสองมุมมองนะครับ ความรอด ที่ริเริ่ม เริ่มต้นโดยพระเจ้า เพราะ (1) เป็นแผนการของพระเจ้า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นไปตามคำพยากรณ์ พระประสงค์ของพระเจ้า ที่พระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จโดยพระองค์เอง และ (2) พระคุณ พระเจ้าครับ ในขณะที่เราเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา
(2) รอ ที่สองครับ “ร่วมมือ” กับพระเจ้า รับความรอด ด้วยการกลับใจใหม่จากความผิดบาป
ในลูกา 3 ข้อที่ 3 “ยอห์นจึงไปทั่วลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ประกาศให้คนกลับใจใหม่และรับบัพติศมาเพื่อให้พระเจ้าทรงยกโทษความผิดบาป”
ทูตที่มาตระเตรียมทางให้กับองค์เจ้านาย ในมาลาคี บทที่ 3 เราส่งทูตของเราไปเพื่อตระเตรียมหนทางไว้ข้างหน้าเรา
อีก 430 ปี ต่อมา คำพยากรณ์นี้ สำเร็จใน ยอห์นผู้ให้บัพติสมา และการตระเตรียมทางที่มาลาคีพูดถึง คือ เตรียมชีวิตของอิสราเอล เพื่อต้อนรับ การมาของพระเยซูคริสต์ การมาของแผ่นดินของพระเจ้า
รอ ที่สอง สำหรับความรอด คือ ความรอด ที่ ริเริ่ม เริ่มต้น โดยพระเจ้า โดยพระคุณ และแผนการพระเจ้า เราเองก็จำเป็นต้อง ให้ ความ “ร่วมมือ”กับพระเจ้า ด้วยครับ โดยการ กลับใจใหม่จากความบาป
คำว่า กลับใจ หรือ Metanioya ในภาษากรีก ให้ภาพการกลับใจจากความบาป อยู่สามขั้นตอนครับ
การกลับใจ มี สามขั้นตอน ครับ (1) สำนึกผิด เสียใจจากความบาป (2) หันมาหาพระเยซูคริสต์ เพื่อรับการไถ่ และ (3) รับชีวิตใหม่ ดำเนินชีวิตวิถีใหม่ ไม่กลับไปทางเก่า
นอกจาก เราสำนึกผิด เสียใจในความบาป แล้ว ยังไม่พอนะครับ เพียง ขั้นตอนที่ หนึ่งเท่านั้นครับ ขั้นที่สองคือ เราต้อง หันมาหาพระเยซูคริสต์ เพื่อรับการไถ่ที่ไม้กางเขน ครับ ไม่มีทางอื่นใดที่พระเจ้าโปรดให้มี ทั่วใต้ฟ้า มีทางเดียว คือผ่านทางการยกโทษบาปในพระเยซูคริสต์เท่านั้นครับ ที่ไม้กางเขน
ยอห์นผู้ให้บัพติสมา เห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาหาท่าน ยอห์นกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดก (หมายถึงลูกแกะ) ของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป” ในยอห์น บทที่ 1
และ ขั้นที่สาม ครับ หลังจากหันมาหาพระคริสต์แล้ว เราต้องรับวิถีชีวิตใหม่ ปฎิเสธวิถีชีวิตเดิมที่นำไปสู่ความตาย รับวิถีชีวิตใหม่ ที่นำไปสู่ชีวิต ไม่กลับไปทางเก่าอีกครับ
มาลาคี 3 ข้อที่ 2 “...เพราะว่าท่านเป็นประดุจไฟถลุงแร่ และประดุจสบู่ของช่างฟอกหนัง ท่านจะนั่งลงอย่างช่างถลุงเงินและช่างชะล้างเงิน...ถลุงพวกเขาอย่างถลุงทองคำและถลุงเงิน จนกว่าเขาจะนำเครื่องบูชามาถวายแด่พระยาห์เวห์ด้วยความชอบธรรม”
พี่น้องครับ มาลาคีให้ภาพ การชำระความผิดบาป ในชีวิตของเรา สองภาพ คือ เหมือนการถลุงทองคำ เงิน และ ภาพที่สอง คือ สบู่ของช่างฟอกหนัง พี่น้องครับ ให้ภาพ การชำระความผิดบาปในชีวิตของเรา เมื่อเรากลับใจใหม่ พระเจ้าจะทำให้ชีวิตของเราในฐานะผู้เชื่อ บริสุทธิ์มากขึ้น นำสิ่งที่เป็นมลทิน สิ่งสกปรกออกจากชีวิตของเรา จนในที่สุด เราจะกลายเป็น ทองคำ เงินที่บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปนที่เป็นมลทิน ชีวิตเราจะกลายเป็นหนังฟอกที่ถูกทำความสะอาดด้วยสบู่ จนสะอาด ปราศจากคราบสิ่งสกปรก
ภาพไฟถลุงแร่ เป็นภาพ ของเตาไฟที่มีความร้อนสูง การเผาทำลายเพื่อแยกเอาสิ่งเจือปนออกมาจากทองคำ เงินบริสุทธิ์ ร้อนมาก ใช้ความร้อนในการสัมผัสโลหะ ความเจ็บปวด ไม่สบายๆ นะครับ เพื่อให้เรามีชีวิตที่บริสุทธิ์ หลายครั้ง ในการกลับใจ เราต้องทนทุกข์ ลำบากครับ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สบายๆ
พระคัมภีร์พูดถึง การตายต่อตนเอง ปฎิเสธตนเอง ปฎิเสธความต้องการของเนื้อหนัง กิเลสตัณหาในชีวิต ต้องรู้จักบังคับตน อดทนอดกลั้น
รอที่สองครับ คือ “ร่วมมือ” ครับ คือเราต้อง ร่วมมือ กับ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ในชีวิตของเรา กลับใจจากความบาป อดทนอดกลั้น ต่อสิ่งเหย้ายวนต่างๆ เพื่อไม่ให้เรากลับไปในทางเก่า
ภาพที่สอง นะครับ พระเจ้าเป็นเหมือนช่างฟอกหนัง โลหิตพระคริสต์ชำระล้างความบาปของเรา เหมือนสบู่ที่ทำความสะอาดเสื้อผ้า หนังสัตว์ มือของพระเจ้าที่สัมผัสชีวิตของเรา เพื่อให้เราได้รับการชำระจากสิ่งสกปรก นำสิ่งสกปรกออกจากหนังสัตว์ ออกจากชีวิตของเรา นอกจากภาพของไฟ ที่เผาผลาญ ร้อนแรง สัมผัสแตะต้องไม่ได้ พระเจ้ายังให้ภาพการชำระชีวิตของเรา ด้วยมือของพระองค์ที่สัมผัสของเรา เป็นภาพของความรัก การใส่ใจ ความห่วงใย การค่อยๆชำระชีวิตของเราให้บริสุทธิ์มากขึ้น เหมือนภาพของช่างฟอกหนังที่ใช้สบู่ในการชำระล้างหนังสัตว์ให้สะอาด
พระเยซูคริสต์ก็เช่นเดียวกันครับ ทรงอยู่ด้วยกับเรา ทรงสัมผัสแตะต้องชีวิตของเรา เพื่อที่เราจะรับการเปลี่ยนแปลงชีวิต ด้วยสัมผัสแห่งความรัก ความใส่ใจ และความห่วงใยของพระองค์ในชีวิตของเรา แม้แต่เพียงจุดสกปรกเล็กน้อย ก็ไม่พ้นสายตาของช่างฟอกหนังที่ค่อยๆ ล้างทำความสะอาด
พี่น้องครับ รอที่สอง ครับ “ร่วมมือ” กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเราครับ ต่อสู้กับเนื้อหนัง กิเลสตัณหาในชีวิตของเรา ต่อสู้กับมาร และค่านิยมที่ว่างเปล่าของโลกนี้ โดยการ กลับใจใหม่ จากความบาปในชีวิตของเรา ครับ ให้เราสารภาพ สำนึกผิด เสียใจ หันมาหาพระคริสต์เพื่อรับ การชำระ และ ดำเนินชีวิตใหม่ ไม่กลับไปในทางเก่า ครับ อาเมนนะครับ ขอบคุณพระเจ้า
ผ่านไปสอง รอแล้วนะครับ สำหรับ ความรอด คือ “ริเริ่ม” “เริ่มต้น” และ รอที่สอง “ร่วมมือ” นะครับ
(3) รอที่สามครับ รอ “รักษา” ชีวิตของเราด้วยการ “รักษา” บทบัญญัติของพระเจ้า
ในมาลาคี 3 ข้อที่ 5 ครับ “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า แล้วเราจะมาใกล้เจ้าเพื่อการพิพากษา เราจะเป็นพยานที่รวดเร็วที่กล่าวโทษนักวิทยาคม พวกผิดประเวณี ผู้สบถเท็จ ผู้บีบบังคับลูกจ้างในเรื่องค่าจ้าง ผู้บีบบังคับแม่ม่ายและลูกกำพร้า ผู้ผลักไสคนต่างด้าวให้ไปเสีย และผู้ที่ไม่ยำเกรงเรา”
พระเจ้าบอกกับประชากรของพระองค์ว่า ให้ระมัดระวังการดำเนินชีวิตให้ดี เพราะเมื่อพระองค์เสด็จมาอีกคร้งหนึ่ง คือ การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ เพื่อที่เราจะไม่ดำเนินชีวิตเหมือนคนที่ไม่มีพระเจ้า เหมือนคนที่ไม่มีความเชื่อ ข้อที่ 5 คือ พระมหาบัญญัติ ที่พระเยซูได้ให้ไว้นั้นแหละครับ คือ ให้รักพระเจ้าสุดๆ และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
บรรดา นักวิทยาคม พวกผิดประเวณี ผู้สบทเท็จ คือ คนที่ไม่รักพระเจ้า มีรูปเคารพ ไม่ได้รักพระเจ้า
ผู้ที่บีบบังคับลูกจ้าง เอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง บีบบังคับแม่ม่าย ลูกกำพร้า คนต่างด้าว คนเหล่านี้คือ เพื่อนบ้านของเราครับ ให้เรารักเพื่อนบ้านครับ พี่น้องครับ
รอที่สาม ครับ คือ “รักษา” พระมหาบัญญัติของพระเจ้าครับ คือ รักพระเจ้า และ รักเพื่อนบ้าน
พระเจ้าไม่ได้ ประทาน ความรอดให้เรา เพื่อที่เราจะ ดำเนินชีวิตอย่างไรก็ได้ เพื่อที่เราจะไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว รอวันที่เราจะจากโลกนี้ไปอยู่พระองค์นะครับ แต่ ทรงประทานความรอด ให้กับเรา เพื่อที่เรา จะมี รักษา บทบัญญัติของพระองค์นะครับ เพื่อที่เราจะดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นประชากรของพระองค์ สมกับเป็นลูกของพระองค์ ให้ชีวิตของเราเป็นคำพยานถึง ความรอด ความรัก และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เพราะเมื่อคนที่เห็นความดีในชีวิตของเรา เขาก็จะสรรเสริญพระเจ้า ให้พระเจ้าได้รับเกียรติผ่านการดำเนินชีวิตของเรา อาเมนนะครับ
ระมัดระวัง ที่จะ รักษา บทบัญญัติของพระเจ้า ระมัดระวังที่จะรักษา ชีวิต ดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้า เรารักเพื่อนบ้าน โดยการที่เราไม่นินทา ว่าร้ายใครนะครับ เราไม่ว่าใครลับหลัง
เรารักเพื่อนบ้าน โดยการเรียนรู้จัก การถ่อมใจ ความอดทนอดกลั้น ต่อจุดอ่อน ข้อบกพร่องในเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งอาจจะเป็นสามีของเรา เพื่อนเราในที่ทำงาน ที่โรงเรียน หรือ ลูกค้าของเรา
เรารักเพื่อนบ้าน ผ่านงานสังคมสงเคราะห์ของคริสตจักร ช่วยเหลือ คนยากจน คนเจ็บป่วย หญิงม่าย ลูกกำพร้า คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา เพราะคนเหล่านี้อยู่ใกล้พระทัยพระเจ้า พระเจ้าทรงห่วงใยคนเหล่านี้
เรารักพระเจ้า โดยการยอมจำนนกับพระเจ้า ถวายตัวเราให้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ยอมให้น้ำพระทัยพระเจ้าสำเร็จในชีวิตของเรา
เรารักพระเจ้า โดยการวางใจ ในพระเจ้า ให้พระเจ้านำชีวิตของเราอย่างแท้จริง ให้พระเยซูทรงครอบครอง นั่งอยู่บนบังลังก์ใจของเรา เราลงจากบันลังก์ของเรา นั่งอยู่ที่แทบเท้าพระเยซูคริสต์
เรารักพระเจ้า โดยการ ให้พระเจ้าก่อนเสมอในชีวิตของเรา ทำอะไร จะตัดสินใจ อะไร จะไปทำงานต่างจังหวัด จะแต่งงาน จะเริ่มต้นครอบครัวใหม่ จะตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจ จะเรียนต่อ เราให้พระเจ้าอยู่ในสมการชีวิตของเราเสมอ คิดถึงพระเจ้าก่อน ว่าการตัดสินใจนี้ พระเจ้าคิดอย่างไร พระองค์จะดีใจ หรือเสียพระทัย เราจะออกห่างจากพระเจ้าไปมั้ย ถ้าเราเลือกทางนี้
พี่น้องครับ ความรอด มีสามรอ นะครับ
เริ่มต้น จากพระเจ้า โดยพระคุณพระเจ้า ตามแผนการของพระเจ้า
ร่วมมือ ให้เราร่วมมือกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ กลับใจใหม่จากความบาป มีสามขั้นตอนนะครับ สำนึกผิด เสียใจต่อความบาป หันกลับมาหาพระคริสต์ รับการยกโทษและการไถ่ในพระเยซูคริสต์ที่ไม้กางเขน และ ดำเนินชีวิตวิถีใหม่ ไม่กลับไปดำเนินชีวิตอยู่ในทางเก่า
รอที่สาม รักษา รักษาบทบัญญัติของพระเจ้า รักพระเจ้า และ รักเพื่อนบ้าน
ดำเนินชีวิตที่ได้รับความรอด ให้สมกับ การที่เราเป็นประชากรของพระองค์ ให้สมกับการที่เป็นลูกของพระองค์ เพื่อที่คนทั้งหลายเมื่อเห็นความดีสิ่งดีในชีวิตของเรา เขาจะสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้าจะได้รับเกียรติผ่านชีวิตของเรา อาเมน นะครับ
ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้ ให้เราได้เตรียมชีวิตของเรานะครับ สำหรับ ความรอด
Advent เป็นช่วงที่เรา รอคอย ครับ เฝ้า รอคอย การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์
การเสด็จมาของพระเยซู กุมารในรางหญ้า คริสตมาส เมื่อสองพันปีที่แล้ว
การเสด็จมาของพระเยซู ผู้ยังทรงพระชนม์อยู่ แม้ในเวลาที่ผมประกาศพระคำของพระองค์ ให้พระเยซูเสด็จเข้ามาในชีวิตของเราครับ
และ รอคอย การเสด็จกลับมาของพระเยซู คริสต์ ครั้งที่สอง ด้วยใจจดจ่อ ด้วยความเชื่อ และความหวัง การมาของแผ่นดินของพระเจ้าอย่างครบบริบูรณ์ ความยุติธรรมจะได้รับการชำระ ไม่มีความตาย ความเจ็บป่วย รับชีวิตใหม่ ชีวิตนิรันดร์ ที่เราจะเป็นเหมือนพระคริสต์ เป็นทองคำ เงินที่บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งมลทิน เป็นหนังสัตว์ที่สะอาด ปราศจากคราบสิ่งสกปรกใด ๆ
ในระหว่างรอคอย การเสด็จมาของพระเยซู นี้ ให้เราเตรียมชีวิตของเราครับ รับความรอด ร่วมมือ กับพระวิญญาณในชีวิตของเรา กลับใจใหม่จากความบาปอย่างง่าย ไม่ดื้อกับพระเจ้า และ รักษา ชีวิต รักษาบทบัญญัติของพระเจ้า รักพระเจ้า รักเพื่อนบ้าน เพื่อที่เราจะมีชีวิตที่สมกับการเป็นลูกของพระองค์ อาเมนนะครับ
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน ครับ
Related Media
See more
Related Sermons
See more